การศึกษาของแต่ละประเทศนั้นย่อมมีความแตกต่างกัน เนื่องจากวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละภูมิภาคนั้นแตกต่างกัน แล้ว ระบบการศึกษา แบบไหนถึงจะดี สำหรับการนำไปใช้ในชวิตจริงได้ดีกว่า โดยทาง Chula Gradeup Tutor ขอยกตัวอย่าง ระบบการศึกษา ของประเทศในโซนเอเชีย มาเปรียบเทียบกับ โซนอเมริกา ก็เพื่อศึกษาว่าระบบการศึกษาแบบไหนจะดีกว่า เผื่อเป็นแนวทางในการศึกษาว่าระบบการเรียนการสอนของเด็กไทยในอนาคตควรจะไปในทางทิศใด ตามมาดูกันได้เลย…
การเปรียบเทียบระบบการศึกษาของ โซนอเมริกา VS โซนเอเชีย
ระบบการศึกษาของอเมริกา ค่อนข้างมีความแตกต่างจากประเทศในทวีปเอเชียมากพอสมควร ดังนั้นเมื่อเรามาลองดูเอกลักษณ์ของทั้งสองประเทศก็จะพบว่า สิ่งเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมายังระบบการศึกษาดังนี้
ระบบการศึกษาโซนอเมริกา
- คุณครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก ดำเนินกิจกรรมในห้องเรียนให้เป็นไปอย่างราบรื่น
- เน้นการเรียนรู้ด้วยตัวเองของผู้เรียนเป็นสำคัญ
- การเรียนที่ไม่เน้นท่องจำ แต่จะสอนให้เข้าใจในหลักการมากกว่า
- นักเรียนมีอิสระ เสรี ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ระบบการเรียนของโรงเรียนในเอเชียไม่มี
ระบบการศึกษาโซนเอเชีย
- ระบบการเรียนที่มีคุณครูเป็นศูนย์กลาง
- การเรียนที่วนลูปคือ อ่านหนังสือ แล้วก็ท่องจำไปเรื่อยๆ
- สอนด้วยการแจกแบบฝึกหัดให้นักเรียนทำ แล้วก็เฉลย
- เด็กทุกคนจะต้องมีระเบียบวินัย และมีความเคารพต่อผู้ใหญ่
โดยสรุปก็คือ การเรียนของเด็กเอเชีย เด็กทุกคนจะต้องเคารพคุณครู อีกทั้งทั้งครอบครัว และคุณครูต่างก็มีส่วนร่วมกับการศึกษาของเด็ก การเรียนจะเน้นหวังผลลัพธ์ที่การสอบ ดังนั้นจะเห็นได้จากการมีข้อสอบวัดความรู้ต่าง ๆ จากหลายสำนักไม่ว่าจะเป็น
- PISA
- GAT
- PAT
- O-NET
- วิชาสามัญ 9 วิชา
หรือข้อสอบโอลิปปิคต่างๆ ซึ่งการสอนแบบเอเชียจะสร้างให้เด็กเป็นคนที่เก่งด้านวิชาการ ทำให้เด็กพัฒนาแต่ด้าน IQ แต่ขาดการเรียนรู้และสร้าง EQ ให้กับเด็ก
ส่วนระบบการศึกษาของอเมริกาจะไม่มีการแสดงถึงการให้ความเคารพต่อคุณครู เด็กทุกคนเป็นตัวของตัวเอง อิสระเสรี แต่อาจขาดระเบียบวินัย ครอบครัวไม่มีส่วนร่วมในการเรียนของเด็ก และสิ่งที่เกิดขึ้นกับการศึกษาของอเมริกาก็คือ เด็กมีผลทดสอบวัดความรู้ที่ตกต่ำกว่าระดับมาตรฐาน แต่เด็กกลุ่มนี้มีความสามารถในเรื่องของการคิดวิเคราะห์, ความสามารถในการแก้ไขปัญหา, ความสามารถในการสื่อสาร และร่วมมือทำงานกับผู้อื่นได้ ดังนั้นการศึกษาของอเมริกานั้นก็สามารถสอนให้เด็กมี EQ ได้ แต่ก็ไปบกพร่องด้าน IQ แทน
แต่เพื่อการพัฒนาเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เราคงไม่สามารถเลือกระบบการเรียนของประเทศใด ประเทศหนึ่งมาใช้เป็นมาตรฐานได้ เพราะเด็กควรได้รับทั้ง EQ และ IQ ในการทำงานจริง โลกก็ยังคงต้องการคนที่มีความรู้ ความสามารถ และยังต้องเป็นคนที่สามารถเข้าสังคมเป็น แก้ปัญหาได้ และสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ด้วย
ดังนั้นโลกของเราก็ควรจะสร้างมาตรฐานรูปแบบการศึกษาที่สามารถตอบโจทย์ และพัฒนาเด็กได้ทั้งสติ และปัญญา ไม่ใช่แค่การพัฒนา EQ หรือ IQ ในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ต้องเป็น IQ + EQ = WQ (Whole Intelligence)