สำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่หรือแถบตัวอำเภอต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัดในปัจจุบันนั้น เนื่องมากจากจำนวนคนที่แออัด ทำให้พื้นที่เงียบและสงบมีจำนวนน้อย เพื่อน ๆ หลายคนจึงมองหาสถานที่ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานในชีวิตประจำวัน อย่างร้านกาแฟ หรือคาเฟ่สไตล์เก๋ ๆ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ วันนี้เราเลยแวะไปรวมเอาร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แถมยังสามารถนั่งอ่านหนังสือชิล ๆ ได้ด้วยมาฝากกันจ้า ส่วนจะมีร้านไหนโดนใจ สะดุดตาจนน่าไปลิ้มลองเมนูกาแฟหอมกรุ่นกับเมนูของหวานกันบ้าง ลองตามไปชมกันเลยจ้า
10 ร้านกาแฟเก๋ ๆ เอาใจคอกาแฟที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ มีที่ไหนบ้างตามมาดูได้เลย
1. Too Fast Too Sleep
มาเริ่มต้นกันที่ร้านแรกนั่นก็คือ ร้านกาแฟใจกลางเมืองกรุงสุดชิล ที่ตอบโจทย์ในทุกคำถาม เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เงียบสงบนั่งอ่านหนังสือ หรือคิดไอเดียบรรเจิดในการทำงาน แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ต้องนอนดึกหรือตื่นขึ้นมาทำงานดึก ๆ อ่านหนังสือดึก ๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับลักษณะของร้านให้ความรู้สึกเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษที่หลุด ออกมาจากในหนัง เน้นการใช้โทนสีน้ำตาลสีไม้อ่อนและสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่นเหมือนนอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน รวมไปถึงโต๊ะ เก้าอี้ หรือจะเลือกนั่งเบาะที่พื้น นอนเล่นที่โซฟา ที่นี่ก็มีพร้อมบริการทุกอย่างเช่นกัน สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ส่วนเมนูของหวานเป็นโฮมเมด ทำเอง คิดสูตรเอง อย่าง เครปเค้ก, เบเกอรี่, ช็อกโกแลตบราวนี่ เป็นต้น
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Too Fast Too Sleep
2. Aree Garden
เป็นโครงการในย่านซอยอารีย์ ที่เป็นแหล่ง Hang out แห่งใหม่ของคนเมือง มีพื้นที่ขนาด 1 ไร่ ภายในโครงการเน้นไอเดียการตกแต่งและจัดวางแบบธรรมชาติ ด้วยการยกป่ามาไว้ในเมืองกรุงเลยก็ว่าได้ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้เป็นที่สำหรับพักผ่อนคลายของชาวกรุง สำหรับร้านกาแฟภายในโครงการก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ชับบี้ช้างเบเกอรี่แอนด์กิ๊ฟช็อป (Chubby Chang’s Bakery & Gift Shop) ร้านของคู่รักลูกครึ่งเยอรมันและอเมริกัน จัดเป็นมุมสำหรับทำอาหารและเบเกอรี ที่ทำกันสดๆ ในร้าน และยังมีมุมเล็ก ๆ สำหรับเด็กให้ระบายสีส่วนอีกมุมเป็นมุมกิ๊ฟช็อป พร้อมทั้งของไทยและต่างประเทศให้เลือก ร้านริซ่า ราโม่ (Risa Lamo) ร้านนี้มีโซนให้นั่งเล่นบริเวณชั้น 2 และบริเวณด้านหน้าใต้ร่มไม้, โพลก้าดอทคาเฟ่ (Polka dot cafe) ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโครงการอารีย์การ์เด้น เน้นการตะแต่งร้านด้วยโทนสีขาวดำและโดดเด่นที่เคาน์เตอร์บาร์ลายจุดขายดำ
บริการ : Free Wifi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 06.30-22.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 06.30-24.00 น.
ที่อยู่ : ซอยอารีย์สัมพันธ์ 11 ตรงข้ามกระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2617 1599
เว็บไซต์ : areegarden.com
3. Study Room Cafe
ร้านกาแฟสบาย ๆ ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่อยากมีร้านกาแฟน่านั่ง แอร์เย็น ๆ สบาย ๆ พร้อมทั้งมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ ทำ ให้ร้าน Study Room Café จึงมีบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับนั่งพูดคุย หรือเป็นสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้เป็นอย่างดี ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ เป็นบ้านไม้สีขาวดัดแปลงมาเป็นร้านกาแฟ โดยสามารถเลือกนั่งพักผ่อนได้ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง และสนามหน้าบ้าน แถมยังมีห้องส่วนตัวในชื่อ “ห้องต้องประสงค์” ในการเช่าประชุมหรือติวหนังสือได้อีกด้วย รวมทั้งมีการ Work Shop ในหัวข้อและเทคนิคต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจอีกด้วย สำหรับเมนูภายในร้านมีทั้งเมนู กาแฟ, Caramel Macchiato, Caramel Latte, Mocha และน้ำผลไม้ปั่น คู่กับของหวานอย่างเค้ก Honey Butter Toast และ Yummy Toast รวมทั้งมีเมนูอาหารจานเดียว สำหรับทานง่าย ๆ ไว้บริการในระหว่างนั่งพักผ่อนกับการอ่านหนังสือ หรือทำงานอีกด้วย
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.0 -23.00 น.
ที่อยู่ : Study Room Cafe Free Education (สาขา 1) ชั้น 2 The Vue Bangkok ติดกับ the River Condo ปากซอยเจริญนคร 13 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785 และ Study Room Cafe Free Education (สาขา 2) 643/14 ประชาอุทิศ 47 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785
เว็บไซต์ : studyroomcafe.com และ เฟซบุ๊ก Study Room Cafe
4. ร้านหนังสือบางหลวง
ที่นี่ถือเป็นร้านของศิลปินท้ายคลองบางหลวง เป็นร้านหนังสือที่ดัดแปลงมาจากบ้านไม้สองชั้นริมคลองบางหลวง ซึ่งเป็นสายน้ำแห่งวัฒนธรรม วิถีชีวิต รวมทั้งการท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยทางร้านภายในร้านเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ นวนิยาย หลากหลายแนว ต่าง ๆ โดยให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการและเลือกอ่านหนังสือได้ตามความชอบ ซึ่งบริเวณชั้นสองของร้านจะมีการจัดแสดงเป็นแกลเลอรีรูปภาพต่าง ๆ ของเจ้าร้านอีกด้วย สำหรับเมนูเครื่องดื่มของร้าน ได้แก่ กาแฟสดร้อน-เย็น พร้อมด้วยเมนูเบเกอรี่หลายอย่างให้เลือกอีกด้วย
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการ วันจันทร์-อังคาร เวลา 10.00-18.00 น., วันพุธ-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น.
ที่อยู่ : 315 วัดทองศาลางาม ซอยเพชรเกษม 28 ถนนเพชรเกษม แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านหนังสือบางหลวง-ร้านหนังสือเล็กๆ-ที่บ้านเกิด-3-ภาษีเจริญ-กรุงเทพฯ
5. Think Tank
ร้านกาแฟธรรมดา ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่เน้นให้เป็นเหมือนศูนย์รวมความรู้ พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ อิสระสำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ และยังเป็นศูนย์รวมโครงการต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรให้แก่สังคมอีกด้วย เช่น การรับบริจาคหนังสือ, รับบริจาคฝาปิดกระป๋อง สำหรับทำขาเทียม เป็นต้น แถมทางร้านยังมุ่งเน้นการต้อนรับ ทั้งคนทำงาน กลุ่มนักศึกษา ที่จะมาผ่อนคลายด้วยการนั่งจิบกาแฟ, อ่านหนังสือ, ทำงาน ได้อีกด้วย โดยภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ โซน Out of the box สำหรับจัดนิทรรศการ หรืองานแสดงต่าง ๆ และโซนคาเฟ่ตรงกลาง สำหรับนั่งเล่นพูดคุย ทานอาหารอร่อย ๆ ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ โดดเด่นด้วยโซนห้องสมุด สำหรับนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อีกด้วยส่วน สำหรับเครื่องดื่ม ได้แก่ กาแฟสดทั้งร้อนและเย็น, DIY Fresh Yogurt, Blue Hawaii ทานคู่กับเมนูขนมหวาน เช่น Homemade Waffle, Apple Tart, Chocolate Fudge Cake เป็นต้น
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ที่อยู่ : 9 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 6784 9384
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Think Tank (third place)
6. ร้านหนังสือก็องดิด
ร้านกาแฟที่เน้นบรรยากาศเงียบสงบ ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่ายในสไตล์โกดังเก่า มีเพดานสูงเป็นห้องโล่ง ซึ่งภายในร้านจะไม่มีการตกแต่งมากนัก แต่บริเวณผนังร้านก็ยังคงเต็มไปด้วยชั้นหนังสือทั้งใหม่และเก่าวางเรียง รายอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับจุดเด่นของร้าน คือ มีการคัดสรรหนังสือที่เหมาะกับร้าน รวมทั้งมีการให้บริการแนะนำหนังสือที่สนใจสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการอีก ด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริการเครื่องดื่มและเมนูของหวานรสชาติเยี่ยมด้วย
บริการ : Free WiFi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.
ที่อยู่ : 41/1 อาคาร โครงการ The Jam Factory ถนนเจริญนคร แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2861 0967
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก CandideBooks
7. House of Commons-Cafe & Space
ถือเป็นอีกหนึ่งที่ลงตัวสุด ๆ ระหว่างร้านกาแฟและร้านหนังสือ ที่ตกแต่งให้คล้ายพิพิธภัณฑ์ ภายใต้แนวความคิดที่ว่า “พูดคุย เปิดพื้นที่ จัดกิจกรรม สร้างจังหวะ การตกแต่งที่เปลี่ยนได้ไม่มีเบื่อ” รวมทั้งยังเป็นร้านที่ตอบสนองความต้องการได้หลายรูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบดู และชอบสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นเวทีแสดงความสามารถ โชว์เคสงาน พร้อมด้วยกิจกรรมอื่น ๆ ฉายภาพยนตร์, ละครเวที, เสวนา, ขับจักรยาน รวมทั้งยังรับจัดอบรมและอื่น ๆ แถมยังมีเมนูอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานให้บริการอีกด้วย
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-20.00 น.
ที่อยู่ : ถนนเจริญนคร (อยู่ระหว่างเจริญนคร 20 กับ 22 ตรงข้ามปั๊มเชลล์ ห่างจาก BTS กรุงธนบุรี 700 เมตร) เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 2983 8099
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก House of Commons – Cafe & Space
8. The Third Place Club
Third Place Club ที่ตั้งขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า Mobile Office หรือสถานที่ที่รวมเอาบ้าน ที่ทำงาน และจุดนัดพบระหว่างเพื่อนไว้ในสถานที่แห่งเดียวกัน มีเครื่องดื่มและของว่างและมี อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงไว้บริการ คุณจะเพลิดเพลินและทำงานได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเอาใจคอกาแฟและคลับสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักในการใช้ชีวิตอิสระ ตัวร้านมีลักษณะทรงสูงแบบกล่องสี่เหลี่ยม ส่วนวัสดุที่ใช้เป็นส่วนใหญ่เป็นปูน, เหล็ก, ไม้ และกระจก ผสมผสานในสัดส่วนที่พอดีกัน โดยดีไซน์ร้านแบบโมเดิร์นบวกกับความทันสมัย ถือเป็นร้านกาแฟดีไซน์เท่ๆ เหมาะกับการพักผ่อนและการทำงาน พร้อมด้วยเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น พร้อมด้วยขนมต่าง ๆ ให้บริการอีกด้วย
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.
ที่อยู่ : 137-137/1 ซอยทองหล่อ 10 อาคาร ชั้น 1 เดอะเทิร์ดเพลสแบงค็อก ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 027147929
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Third Place Bangkok
9. The Bookshop
The Bookshop Cafe เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์เล็ก ๆ โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง Alice in Wonderland แต่ ก็ให้อารมณ์ละม้ายเข้าไปอยู่ใน Hogwarts ในหนังเรืองแฮรี่พอตเตอร์ อยู่เหมือนกัน ซึ่งร้านจะมีบรรยากาศสบาย ๆ น่านั่งจิบเครื่องดื่ม ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์แปลกตา เพดานร้านที่ตกแต่งด้วยหนังสือห้อยย้อยลงมาดูสวยงามไปอีกแบบ ส่วนโซนที่นั่งมีการจัดวางแบบผสมผสานระหว่างเก้าอี้ทรงสูง และโซฟาไว้ในจุดต่าง ๆ อย่างสวยงามส่วนเมนูอาหารของร้านเน้นประเภทอาหารยุโรป และอาหารสัญชาติไทย ๆ ให้บริการพร้อมเครื่องดื่มหลายชนิดอีกด้วย ส่วนเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของร้านก็คือ กาแฟ, เครื่องดื่มค็อกเทล และไวน์ เป็นต้น
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
ที่อยู่ : G Floor แอชตัน คอนโดมิเนียม สุขุมวิทซอย 38 (BTS ทองหล่อ) กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 02 187 4949
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Bookshop
10. My Café the Library
ร้านอาหารในห้องสมุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยรวมทั้งสองอย่างเอาไว้ในร้านเดียวได้อย่างงตัว โดดเด่นด้วยหนังสือเก่าและใหม่ รวมทั้งหนังสือหายากว่า 200 เล่ม โดยร้านนี้เป็นร้านที่ต่อยอดมาจาก My Cafe ในโรงแรม My Hotel เน้นการตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ The Simply Stylish แต่ร้านนี้ตกแต่งในสไตล์ผสมผสานระหว่างร้านอาหารในห้องสมุด โดยบริเวณโดยรอบของร้านจะตกแต่งด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่แบ่งตัวร้านออกเป็น 2 ส่วน คือ ชั้นล่างและชั้นลอยที่เต็มไปด้วยหนังสือเช่นกัน แถมยังมีบริการรับซื้อ-ขาย-แลก-เปลี่ยน และรับซ่อมหนังสือเก่าอีกด้วย สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กาแฟสด, เค้ก และน้ำผลไม้สมูทตี้ นอกจากนี้ ยังมีบริการเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกมากมายเช่นกัน
บริการ : Free WiFi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่อยู่ : ชั้น 1 อาคารนวมินทร์ซิตี้อเวนิว ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯโทรศัพท์ : 0 2907 2220
เว็บไซต์ : mycafethailand.com
ร้านชิลล์ ๆ สบาย ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ทาง Chula Gradeup Tutor รวบรวมมานี้ อาจจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจก็ฝาก comment กันได้นะ หรือใครมีที่น่าสนใจกันมากกว่านี้ก็แนะนำกันได้ คลิกที่นี่ นะ ทาง Chula Gradeup Tutor จะพยายามหาที่น่าสนใจมาแบ่งปันให้เพิ่มเติมนะ