วิศวกรรมศาสตร์ หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Engineering เป็นหนึ่งในสาขา STEM Education ที่ประกอบด้วย Science Technology Engineering and Mathematics ซึ่งเป็นแนวทางการศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ไปใช้ในการเชื่อมโยงและแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
พร้อมทั้งนี้ การเรียนรู้แบบ STEM Education ยังไม่ได้นำความรู้เพียงแค่ 4 ด้านมาประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำความรู้ด้านอื่น ๆ เช่น ศิลปะ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ พลศึกษา สุขศึกษา สังคมศึกษาและวัฒธรรม มาบูรณาการร่วมกันได้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
และทาง Chula Gradeup Tutor ก็ได้รวบรวมสาขาด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มีความน่าสนใจ เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และอัตราเงินเดือนที่จะได้รับในแต่ละสาขาด้านวิศวะมาฝากกันด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย…
ทั้งนี้อัตราเงินอาจจะมีความแตกต่างไม่เท่ากัน เนื่องจากอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กร ประสบการณ์ทำงาน และอื่น ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ที่เป็นนักศึกษาจบใหม่หรือใครที่กำลังหางาน ย้ายงาน อยู่นั้น ควรจะศึกษารายละเอียดขององค์กรและตำแหน่งให้ดีเสียก่อน ตัดสินใจด้วยนะคะ
1. วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software engineering)
ใช้ความรู้พื้นฐานด้านวิศกรรมคอมพิวเตอร์เป็นหลัก และยังรวมถึงการดึงเอาวิชาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าบางตัวมาใช้ในการทำงานด้วย โดยสาขานี้จะเรียนเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ เริ่มตั้งแต่กระบวนการวิเคราะห์ระบบ ออกแบบ ไปจนถึงขั้นตอนการทดสอบ และยังจะต้องเรียนรู้ด้านการพัฒนาฮาร์แวร์ควบคู่กับการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย เพื่อให้ได้ระบบงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
อัตราเงินเดือน : 20,000 – 40,000 บาท
2. วิศวกรปิโตรเลียม (Petroleum engineering)
เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรณีวิทยาของแหล่งปิโตรเลียม วิธีการเจาะ คำนวณการไหลของปิโตรเลียมในท่อผลิตและท่อส่ง และยังจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติต่าง ๆ ของปิโตเลียมทั้งหมด การนำทรัพยากรปิโตเลียมขึ้นมาจากใต้ดิน ไปจนถึงกระบวนการผลิตและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด เมื่อน้อง ๆ เรียนรู้จบแล้วสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานที่โรงกลั่นหรือที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน
อัตราเงินเดือน : 25,000 – 35,000 บาท (ถ้าต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่จะมีเงินพิเศษด้วย)
3. วิศวกรเคมี (Chemical Engineer)
เรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติทางกายภาพ การออกแบบอุปกรณ์ และการควบคุมกระบวนการทำงานทางเคมี ชีวเคมี รวมถึงเรียนรู้หลักการของกระบวนการผลิตเคมีในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ควบคู่กับหลักเศรษฐศาสตร์ไปพร้อม ๆ กันด้วย
เมื่อเรียนจบแล้วสามารถทำงานได้อย่างหลากหลายตำแหน่ง เช่น วิศวกรการผลิต มีหน้าที่ในการควบคุม ดูแล แก้ไข กระบวนการผลิตต่าง ๆ ทางด้านเคมี ปิโตรเคมี, วิศวกรโครงการ มีหน้าที่กำกับดูแลงานโครงการต่าง ๆ ของโรงงานการผลิต, นักวิจัยด้านเคมี และวิศวกรออกแบบและพัฒนากระบวนการผลิต เป็นต้น
อัตราเงินเดือน : 18,000 – 50,000 บาท
4. วิศวกรหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robotics and automation engineering)
เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการความรู้ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า เครื่องกล และคอมพิวเตอร์มาทำงานร่วมกัน โดยจะเริ่มเรียนตั้งแต่พื้นฐานการคิดวิเคราะห์ ออกแบบ เขียนโปรแกรม และสร้างผลงานออกมาให้สามารถใช้งานได้จริง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของการทำงานในยุคปัจจุบันที่ได้มีการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้าใช้งานมากขึ้นในแต่ละภาคอุตสาหกรรม
อัตราเงินเดือน : 30,000 – 45,000 บาท
5. วิศวกรการบิน / วิศวกรเครื่องกล (อากาศยาน) (Aerospace engineering)
เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบ วิเคราะห์โครงสร้างรูปร่างทางพลศาสตร์ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการบินทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบการขับเคลื่อน วัสดุและวิธีการผลิต การวางแผนและการควบคุมการสร้างเครื่องบิน และยังรวมถึงการทดสอบหรือการซ่อมบำรุงด้วย งานส่วนใหญ่ของสาขานี้ เช่น การซ่อมบำรุงอากาศยาน การผลิตเครื่องบินเล็กเพื่อใช้ในงานสื่อสารและการสำรวจทัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
อัตราเงินเดือน : 17,000 – 20,000 บาท
6. วิศวกรชีวการแพทย์ (Biomedical engineering)
เป็นการนำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้งานร่วมกัน เช่น ความรู้ด้านกลศาสตร์ของไหล ความรู้ทางด้านการแพทย์ และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อนำมาออกแบบ สร้าง หรือพัฒนาซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน เช่น การทำหัวในเทียม หรือหลอดเลือดทียม เป็นต้น น้อง ๆ สามารถเลือกทำงานได้ทั้งในโรงพยาบาลหรือบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องด้านการแพทย์
อัตราเงินเดือน : 20,000 – 35,000 บาท
7. วิศวกรระบบราง (Railway systems engineering)
เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบ ก่อสร้าง ซ่อมบำรุง และเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านรถไฟทั้งหมด รววมไปถึงด้านโลจิสติกส์ และการเขียนโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ อีกด้วย เมื่อน้อง ๆ เรียนจบแล้วสามารถเข้าทำงานได้ทั้งหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ
อัตราเงินเดือน : 18,000 – 25,000 บาท
8. วิศวกรโทรคมนาคม / วิศวกรระบบดาวเทียม (Telecommunications engineering)
เรียนรู้ทุกอย่างที่มีความเกี่ยวกับการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาณ การส่ง การรับข้อมูล การวิเคราะสัญญาณต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรมในภาษาต่าง ๆ และเรียนรู้เรื่องวงจรจรอิเล็กทรอนิกส์ อีกด้วย เมื่อเรียนจบไปแล้วลักษณะงานที่น้อง ๆ จะเจอก็คือ งานด้านการควบคุมการสื่อสาร งานติดตั้งและการซ่อมบำรุงระบบ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัตราเงินเดือน : 18,000 – 20,000 บาท
9. วิศวกรไฟฟ้า (Electrical engineering)
เน้นเรียนเกี่ยวกับการออกแบบและการวิเคราะห์ระบบไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า การรับส่งข้อมูลในรูปสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การควบคุมระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำทั้งในระดับขนาดไมโครเมตรและนาโนเมตร และยังเรียนเกี่ยวกับวิธีการแปรผันพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดให้นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น เมื่อเรียนจบแล้วสามารถเข้าทำงานได้ในโรงงานภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือโรงงานผลิตไฟฟ้า ฯลฯ
อัตราเงินเดือน : 25,000 – 35,000 บาท
10. วิศวกรเสียง (Sound engineering)
เป็นการประยุต์ใช้ความรู้ด้านวิศกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสาร และไอที มาทำงานร่วมกับดนตรี กราฟิก และแอนิเมชัน อาชีพสำหรับคนที่จบสาขาด้านนี้ เช่น Sound engineer หรือ Light and sound control ฯลฯ ซึ่งสามารถเข้าทำงานได้ในบริษัทภาคอุตสาหกรรมดนตรีต่าง ๆ
อัตราเงินเดือน : 18,000 – 35,000 บาท
หวังว่าทั้งหมดนี้คงพอเป็นตัวอย่างสาขาวิศวกรรมศาสตร์ที่ทาง Chula Gradeup Tutor ได้รวบรวมมาเพื่อเป็นตัวอย่างในการเลือกสาขาของวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ให้กับน้อง ๆ ได้บ้างนะ หรือถ้าน้อง ๆ ต้องการอ่านรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่
ข้อมูลจาก : www.stemedthailand.org