“คณิตศาสตร์” มีบทบาทสำคัญต่อความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และความเจริญในอีกหลาย ๆ ด้าน แต่หลายคนไม่ชอบวิชา คณิตศาสตร์ ด้วยเหตุผลส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ที่ว่า “ไม่ชอบ” หรือ “ไม่เข้าใจ”
ทาง Chula Gradeup Tutor มักจะได้ยินเด็ก ๆ หลาย ๆ กลุ่มมักจะบ่นและโทษครูสอนคณิตศาสตร์อยู่เสมอว่าสอนไม่รู้เรื่อง แต่ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า แล้วทำไมมีเด็กบางกลุ่มก็เรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่ครูสอน การเรียนคณิตศาสตร์ให้เข้าใจจำเป็นต้องฝึกเรียนรู้และปฏิบัติด้วยตนเองอยู่เสมอ ซึ่งหากเราฝึกฝนบ่อย ๆ เราจะมีประสบการณ์ทำให้เราสามารถเอาชนะความไม่ชอบนี้ได้ จนสามารถประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งด้วย “การเรียนรู้และฝึกฝนด้วยตนเอง”
ซึ่งในครั้งนี้ทางทีม Chula Gradeup Tutor ขอนำเสนอเทคนิคการเรียนรู้ด้วยตนเองในวิชาคณิตศาสตร์ ดังนี้
1. เข้าใจคณิตศาสตร์
เราอาจรู้จักวิชาคณิตศาสตร์แค่ว่าเป็นวิชาที่ต้องเรียนเพราะมันสำคัญ แต่ไม่เคยทำความเข้าใจว่ามันมีประโยชน์อย่างไร และนำไปทำอะไรได้บ้าง จึงทำให้เราให้ความสำคัญกับการเรียนรู้แบบท่องจำว่า ถ้าต้องการแก้ไขปัญหานี้ต้องใช้สูตรอะไร แต่ไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าทำไมต้องใช้สูตรนี้หรือมีหลักในการเลือกใช้สูตรนี้เพราะอะไร จึงทำให้เราพบปัญหาที่ว่าเราประยุกต์ใช้วิชาคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาทั้งในและนอกบทเรียนไม่เป็น
2. เรียนรู้และฝึกฝนคณิตศาสตร์ด้วยตนเอง
แนวทางการศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ด้วยตนเอง ไม่ควรที่จะศึกษาด้วยวิธีการแบบท่องจำ การฝึกฝนตนเองด้วยการทำแบบฝึกหัด ข้อสอบ จะช่วยสร้างความเข้าใจเนื้อหาวิชาได้อย่างแท้จริง ลองอ่านและทำตามแนวทางที่นำเสนอต่อไปนี้ อาจช่วยได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจเป็นสำคัญด้วย
3. พยายามสร้างเสริมความคิดความรู้สึกทางบวกต่อวิชาคณิตศาสตร์
ไม่ควรรู้สึกท้อแท้ใจเมื่อไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาช่วงแรก ๆ แต่ควรพยายามค้นหาสาเหตุ และพยายามแก้ไข จนถึงช่วงเวลาหนึ่งก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง
4. ปรับพื้นความรู้ด้านคณิตศาสตร์
บางคนที่อาจมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ที่ไม่เพียงพอ แนวทางแก้ไขคือการทบทวนและฝึกทำโจทย์ปัญหาเพิ่มเติมให้มากขึ้น ยิ่งทำเยอะจะยิ่งช่วยให้เข้าใจมากขึ้น และสร้างสร้างพื้นฐานความรู้ด้านคณิตศาสตร์ให้แน่นขึ้น
5. วางแผนการเรียนอย่างสม่ำเสมอ
การเรียนคณิตศาสตร์ควรมีการศึกษาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน เรียนรู้จากง่ายไปยาก จากแบบฝึกหัดเป็นแบบทดสอบ จากพื้นฐานเป็นประยุกต์ ซึ่งเป็นความรู้ที่จะต้องสะสมต่อยอดกันขึ้นไปเรื่อย ๆ จึงควรมีความสม่ำเสมอและตั้งใจควบคู่กันไป การวางแผนให้เป็นไปตามลำดับที่วางไว้จะช่วยให้เรามองเห็นเป้าหมายและแนวทางสำเร็จในแต่ละช่วงได้อย่างชัดเจน ทำให้สนุกและท้าทายมากขึ้นด้วย
6. ควรกำหนดช่วงเวลาในการศึกษาด้วยตนเองให้ได้ทุกวัน
โดยวันหนึ่ง ๆ อาจจะเป็นเนื้อหา 1 ประเด็น โดยมีการทำแบบฝึกหัด และการจดบันทึกสาระสำคัญอย่างมีระบบการศึกษาเนื้อหาไปทีละน้อย ทีละขั้นโดยไม่ข้ามขั้นตอนเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้เข้าใจความเป็นมาของทฤษฎี กฎเกณฑ์ นิยามของคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์ และมีกระบวนการแก้ปัญหาในโจทย์ปัญหาลักษณะต่าง ๆ ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
7. เรียนรู้นิยามศัพท์ และสัญลักษณ์พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นอย่างถูกต้อง
พยายามฝึกฝนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ด้วยตนเองให้มาก และครบถ้วน กระบวนการคิดวิเคราะห์จะทำให้พัฒนาขึ้นได้ เมื่อเราสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างโจทย์ปัญหาที่พลิกแพลงได้ ก็จะทำให้เราตีโจทย์ได้ในหลาย ๆ แบบ โดยไม่จำเป็นต้องท่องจำ
8. พยายามทำความเข้าใจกรณีปัญหาต่าง ๆ ในหลาย ๆ แบบ
การท่องจำเป็นความจำเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการศึกษาคณิตศาสตร์ แต่ควรทำความเข้าใจว่าจะใช้สูตรนั้น ๆ แก้ปัญหาอย่างไร และบันทึกความแตกต่างและลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาที่ใช้ ฝึกแก้โจทย์ปัญหาด้วยตนเอง โดยไม่ดูแนวตอบหรือเฉลยล่วงหน้า เพราะทักษะความสามารถในการคิดแก้ปัญหา จะพัฒนาได้มากเมื่อมีความภาคภูมิใจที่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
9. ควรหาผู้เป็นโค้ชเพื่อขอความช่วยเหลือ
ข้อนี้สามารถปรึกษา ทีม Chula Gradeup Tutor ได้ เพราะทางเราพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในยามที่น้องๆ ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาบางตอนได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกว่าทุกปัญหามีทางออกและวิธีคิดในหลาย ๆ วิธีอีกด้วย
10. ยอมรับและสร้างกำลังใจของตนเอง
ในการใช้เวลาเพื่อฝึกฝนและศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ให้เข้มแข็ง อย่าหมดกำลังใจพยายามให้กำลังใจตัวเองเสมอ หรือหากหมดกำลังใจจริงๆ ให้ลองมาปรึกษาทาง Chula Gradeup Tutor ได้ เพราะ เราจะเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ทุก ๆ คน
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่นำมาฝากให้ลองนำไปปรับใช้กันดู แต่ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ การฝึกฝนทำแบบฝึกหัดและข้อสอบให้มากที่สุดนั่นเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.kapook.com , http://www.stou.ac.th