น้อง ๆ เคยเป็นกันหรือไม่ ? อ่านหนังสือ มาก็เยอะแต่จำไม่ค่อยได้ แล้วทำไงดีล่ะ? หากน้อง ๆ คนไหนเป็นแบบนี้ ทาง Chula Gradeup Tutor ขอแนะนำเทคนิคที่จะช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ เทคนิคที่จะใช้เป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย …
พี่ ๆ Chula Gradeup Tutor เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนแอบกลัวช่วงเวลา ม.ปลาย ที่ต้องอ่านหนังสือ เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะอาจจะเคยเห็นจากรุ่นพี่ ๆ ที่อ่านหนังสือจน หน้าดำ คล้ำเครียด หัวฟู ร่างพัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเตรียมดี ๆ อาจจะสบายกว่าภาพที่เราคิดก็ได้ มาดูเทคนิคการอ่านหนังสือ ให้จำได้นาน กันเลยดีกว่า
9 เทคนิค อ่านหนังสือ อย่างไรให้จำได้นาน มีดังนี้
1. สติมาปัญญาเกิด
น้อง ๆ บางคนชอบกลัวไปก่อน อ่านไม่ทัน โน้นก็เยอะ ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่ม … สิ่งสำคัญ คือ ตั้งสติก่อน … เริ่มที่ลิสต์ก่อนว่าจะอ่านวิชาไหนก่อน อ่านอะไรบ้าง ตั้งเป้าหมายของวันนี้ไว้ เช่น จะอ่านฟิสิกส์ เรื่อง คลื่น ก็ต้องแยกให้ออก เซ็ทไว้เท่านี้พอ ถ้าเยอะไปเราจะลนมาก ๆ จนไม่มีสมาธิทำอะไรเลย
2. สมาธิก็สำคัญ
สิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่างต่อการอ่านหนังสือ คือ “สมาธิ” ตัวเราจับหนังสือแล้ว อ่านแล้ว แต่ไม่มีสมาธิ อ่านเท่าไหร่ก็จำไม่ได้หรอกนะ สู้คนที่ตั้งสมาธิแล้วอ่านแค่ 15 – 20 นาที ยังไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ทุครั้งที่จะอ่านหนังสืออย่าลืมเรียกวิญญาณตัวเองเข้าร่างก่อนนะ ละทิ้งทุกสิ่งแล้วบอกตัวเองว่า ช่วงเวลานี้ฉันของอ่านหนังสือก่อน อ่านเสร็จแล้วจะกลับไปเล่นต่อได้
3. อย่าห่วงโลกโซเชียล
ปัญหาลำดับต้น ๆ เลยที่ไม่อ่านหนังสือคือการติดโซเชียล จะบอกว่า “อย่างห่วงโลกโซเชียลเลย ให้ห่วงตัวเองก่อนเถอะ” ถ้าคนชอบเล่นโซเชียลมาก ๆ ต้องใจแข็งไว้ก่อน กำหนดไว้ก็ได้ว่าอ่านหนังสือ 50 นาที เล่นได้ 10 นาที แล้วกลับไปอ่านใหม่ หรือ อ่านยาวเลยจนครบบทที่ตั้งใจ แล้วก็นอนเล่นเพลิน ๆ ถ้าให้โซเชียลมาคุมเรา เรานั่นแหละที่จะสอบไม่ได้
4. ไม่ควรอ่านโต้รุ่ง
ห้าม ห้าม ห้าม เด็ดขาด ห้ามอ่านหนังสือแบบโต้รุ่ง อย่างน้อยต้องนอนก่อน นอนที่สุดก็ 4 – 5 ชั่วโมง จะนอนก่อนแล้วค่อยอ่าน หรือ อ่านก่อนแล้วนอนก็ได้ แต่อย่าอ่านแล้วตาค้างไปเรียน หรือ ไปสอบเลย เบลอแน่ ๆ เชื่อพี่ พี่เคยพังมาแล้ว แต่ละคนจะมีช่วงเวลาอ่านหนังสือไม่เหมือนกัน บางคนต้องอ่านก่อนสามทุ่ม บางคนต้อง 5 ทุ่มก่อน บางคนนี่หนักเลย ต้องช่วงแบบตี 3 – 4 เรื่องช่วงเวลานี่สำคัญมากนะ ถ้าเราอ่านในช่วงเวลาที่เหมาะกับตัวเอง นอกจากจะจำเร็วแล้ว ยังประหยัดพลังในการอ่านด้วย หากสามารถจัดช่วงเวลาในการพักผ่อนของตัวเองได้ด้วย
5. จำเป็นภาพได้ก็ดี
พื้นฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่จากงานวิจัยหลาย ๆ แห่งพบว่า การจำเป็นภาพ จะช่วยให้จำได้เร็ว และ นานยิ่งขึ้น แต่ภาพที่ว่าก็ต้องเป็นภาพที่มีระบบระเบียบ ให้สมองได้ทบทวน และ เรียบเรียง เอาเป็นว่าถ้าใครไม่ชอบจำแบบอ่านตรง ๆ ก็สร้าง Mind Mapping หรือจำทั้งภาพ แต่ก็ต้องเข้าใจในภาพนั้นด้วยนะ ไม่ใช่ไปจำภาพที่ไม่เกี่ยวกับที่อ่านล่ะ
6. อย่าลืมทำสรุปย่อด้วย
ขอบอกเลยว่าการสรุปเนื้อหาที่เราทำเอง ถือว่าดีที่สุดเลยก็ว่าได้ กว่าเราจะทำสรุปได้ คือ ต้องกลั่นมาแล้ว จากตัวอักษรเยอะ ๆ จากหนังสือ กลั่นมาเป็นสรุปย่อสั้น ๆ ของเรา (รอบที่ 1) แล้วก็เขียนลงกระดาษ(รอบที่ 2) อ่านทวนอีกรอบ(รอบที่ 3) แค่ทำสรุปอ่านรอบเดียวก็เท่ากับอ่าน 3 รอบแล้ว นี่ไม่นับว่าจะหยิบมาอ่านซ้ำ ๆ อีกนะ
7. อย่าอ่านเปล่า ทำโจทย์ด้วย
อ่านก็อ่านแล้ว สรุปก็ทำแล้ว จำเป็นภาพก็จำแล้ว ท่องศัพท์ งัดทุกเทคนิคมาแล้ว มันจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าไม่ลองทำโจทย์ การทำโจทย์ไม่ใช่เพียงเก็บประสบการณ์ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าสามารถนำความรู้มาตอบได้จริง ๆ หรือเปล่านะ รูปแบบข้อสอบจะเป็นอะไร เราไม่แม่นตรงไหน ถ้าผิดก็คือผิด อย่าหลอกตัวเอง อย่าเอาแต่อ่านเฉลยเพื่อให้มันถูก ลองทำจริง ๆ แบบที่เราสอบจริง จะได้ไม่พลาดตอนไปสอบ
8. คุยกับตัวเองบ้าง
การอ่านหนังสือแบบอ่านๆๆๆๆ อย่างเดียว แต่ไม่เข้าใจ อ่านไปก็เสียเปล่า ลองอ่านแบบคุยกับตัวเองมั้ย? อ่านไปแล้วทำความเข้าใจไป แบบนั่งคุยกับตัวเองว่าหัวข้อนี้มันคือแบบนี้นะ อาจจะช่วยให้จำได้นะ
9. คิดวิธีจำเป็นของตัวเอง
สุดท้าย ร้อยพันวิธีที่ให้ช่วยจำ ก็ไม่สามารถสู้วิธีของตัวเองได้หรอก บางอย่างที่จำไม่ได้ก็ลองหาสิ่งรอบตัวมาจำดู เพราะ แต่ละคนก็มักจะรู้ตัวเองดีที่สุดว่าชอบแบบไหน ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะ ถึงจะมีเทคนิดอ่านหนังสือเป็นร้อยเป็นพันมาให้ แต่ถ้าไม่ลอง ไม่เริ่ม ไม่ทำ กี่แสนเทคนิคก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก เริ่มวันนี้ ก็ยังไม่สายนะ สู้ ๆ นะทุกคน
ทาง Chula Gradeup Tutor หวังว่าเทคนิคที่นำมาแบ่งปันให้น้อง ๆ อาจจะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ไม่มากก็น้อย หากใครมีเทคนิคดี ๆ เพิ่มเติมก็แบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ ได้ที่ Comment ด้านล่างได้เลยนะ และถ้าต้องการอ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่
FB Fanpage : @Chula Gradeup Tutor
Line ID : https://line.me/R/ti/p/%40wud8208i